ภาพรวมของ Olymp Trade ในประเทศไทย 2023

Olymp Trade คืออะไร?

Olymp Trade เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ก่อตั้งมานานตั้งแต่ปี 2014 โดยบริษัท Saledo Global LLC และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ St. Vincent และ Grenadines และเป็นสมาชิกของ International Financial Commission (FinaCom) มาตั้งแต่ปี 2016 จึงช่วยรับประกันได้ว่าจะมีการคุ้มครองนักลงทุนหรือเทรดเดอร์ภายในกองทุนเงินชดเชยของทางหน่วยงานที่กำกับดูแล

Olymp Trade review ให้บริการมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลกและบริการเทรดหรือซื้อขายตราสารต่าง ๆ มากกว่า 80 รายการ รวมไปถึงหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ สกุลเงิน ฟอเร็กซ์ สกุลเงินดิจิทัล และดัชนีต่าง ๆ เมื่อปี 2020 การจ่ายเงินเฉลี่ยของโบรกเกอร์อยู่ที่ 460 ล้านบาทต่อเดือน มีผู้ใช้งานมากกว่า 25,000 รายต่อวัน โดยมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 6 พันล้านบาท

นอกจากนี้ระหว่างปี 2016 จนถึงปัจจุบัน โบรกเกอร์รายนี้ก็ได้รับรางวัลการันตีมาตรฐานสากลมากมาย และบนแพลตฟอร์มยังมีโปรแกรมการฝึกอบรมการเทรด ทรัพยากรในการเรียนรู้จำนวนมาก และทีมนักวิเคราะห์กลยุทธ์การซื้อขายที่จะช่วยให้นักลงทุนเตรียมความพร้อมก่อนการเทรดดิ้งได้เป็นอย่างดี เห็นได้ว่า Olymp Trade เป็นตัวเลือกโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ยอดเยี่ยมที่จะช่วยให้ผู้เล่นชาวไทยเข้าถึงแพลตฟอร์มการเทรดดิ้งได้อย่างง่ายดาย

Olymp Trade
ปีที่ก่อตั้ง 2014
หน่วยงานควบคุม International Financial Commission
ประเภทบัญชี บัญชีทดลอง, บัญชีมาตรฐาน, บัญชีพรีเมียม
จำนวนตราสารที่เทรดได้ มากกว่า 80 รายการ (หุ้น/ สินค้าโภคภัณฑ์/ สกุลเงิน/ฟอเร็กซ์/ สกุลเงินดิจิทัล/ ดัชนี และอื่น ๆ)
จำนวนเงินการฝากขั้นต่ำ ~400 บาท (ขึ้นกับอัตราแลกเปลี่ยน)
จำนวนเงินการฝากขั้นต่ำ ~400 บาท
จำนวนการเทรดดิ้งขั้นต่ำ ~40 บาท
สกุลเงินของบัญชี USD/ EUR/ BRL

ประเภทของบัญชี Olymp Trade คืออะไร?

Olymp Trade review มีตัวเลือกบัญชีซื้อขายที่นักลงทุนสามารถเปิดกับบริษัทโบรกเกอร์แตกต่างกันไปตามประเทศของโบรกเกอร์และนักลงทุนเอง ซึ่งบัญชีแต่ละประเภทจะกำหนดค่าคอมมิชชั่นหรือจำนวนเงินฝากขั้นต่ำที่แตกต่างสำหรับการเปิดบัญชีเหล่านั้น โดยมีประเภทบัญชีหลัก ๆ สำหรับประเทศไทย ดังต่อไปนี้

บัญชีทดลอง (Demo Account)

บัญชีทดลองออกแบบมาเพื่อนักลงทุนที่ต้องการทดสอบแพลตฟอร์มก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนใช้งานจริงด้วยเงินจริง ซึ่งบัญชีนี้จะมาพร้อมกับเงินเสมือนจำนวนหนึ่ง (~300,000 บาท) กับตัวเลือกหรือฟังก์ชั่นต่าง ๆ เหมือนกับบัญชีมาตรฐาน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถทดลองซื้อขาย หรือทดสอบระบบและการทำงานของแพลตฟอร์มได้ฟรี

บัญชีมาตรฐาน (Standard Account)

บัญชีมาตรฐานเป็นบัญชีทั่วไปสำหรับนักลงทุนที่ต้องการฝากเงินขั้นต่ำตามที่แพลตฟอร์มกำหนด (ประมาณ ~400 บาท) และสามารถเข้าถึงสกุลเงินมาตรฐานจำนวนมากเพื่อทำการซื้อขายบนตลาดหลักทรัพย์ต่าง ๆ โดยสามารถซื้อขายขั้นต่ำ ~40 บาท สูงสุด ~84,000 บาท และถอนขั้นต่ำราว ~400 บาท

บัญชีพรีเมียมหรือบัญชีวีไอพี (VIP Account)

บัญชีพรีเมียมหรือบัญชีวีไอพีเป็นบัญชีของนักลงทุนที่มีคุณสมบัติสำหรับบัญชีวีไอพี โดยจะต้องฝากเงินขั้นต่ำตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดเอาไว้ (ราว ~84,000 บาท) จึงจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากบัญชีมาตรฐาน สิทธิประโยชน์ประกอบไปด้วย การซื้อขายที่สูงขึ้น (สูงสุด ~200,000 บาท) การเข้าถึงที่ปรึกษาที่เป็นนักวิเคราะห์การเงินเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการซื้อขาย รวมทั้งการเข้าถึงเครื่องมือการฝึกอบรมที่มากขึ้น

ข้อดีและข้อเสีย

ข้อดี ข้อเสีย

✔️ศักยภาพในการลงทุนสูง

✔️ข้อกำหนดเงินขั้นต่ำไม่สูงมาก

✔️มีบัญชีทดลองฟรี

✔️มีการอัปเดตกราฟให้ทันสมัย

✔️มีโปรแกรมสำหรับฝึกฝน

✔️อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย

✔️ฝากถอนรวดเร็ว

✔️ฝ่ายสนับสนุนรวดเร็ว 24 ชั่วโมง

❌มีค่าธรรมเนียมต่อการซื้อขาย

❌ช่องทางการชำระเงินไม่ครอบคลุม

❌เงื่อนไขการซื้อขายสินทรัพย์แตกต่างกัน

คู่มือสำหรับเทรดเดอร์: วิธีเริ่มสร้างรายได้

หากผู้เล่นในไทยต้องการเริ่มต้นเทรดดิ้งให้ไปที่เว็บไซต์ทางการของ Olymp Trade จากนั้นทำการลงทะเบียนและเปิดบัญชีส่วนตัวเพื่อเริ่มต้นใช้งาน ซึ่งจะมีบัญชีให้เลือก 3 ประเภท คือ บัญชีทดลอง บัญชีมาตรฐาน และบัญชีพรีเมียมหรือวีไอพี สำหรับนักเทรดเดอร์มือใหม่หรือผู้ที่เริ่มใช้งานครั้งแรกจะขอแนะนำให้เริ่มต้นใช้บัญชีสองประเภทแรก เพราะว่าการจะก้าวสู่การสร้างกำไรที่มั่นคงได้จะต้องเข้าใจการเทรดเดอร์อย่างละเอียดและฝึกฝนอย่างต่อเนื่องให้เกิดความมั่นใจและความเชี่ยวชาญ บัญชีสองประเภทที่แนะนำ คือ

บัญชีทดลอง เป็นบัญชีที่สามารถใช้ได้ทั้งนักลงทุนมือใหม่และมืออาชีพ โดยนับว่าเป็นวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับฝึกอบรมในการเทรดดิ้งหรือซื้อขายสินทรัพย์ต่าง ๆ การใช้งานบนบัญชีทดลองจะได้รับเงินเสมือน ~300,000 บาท และสามารถทดสอบรูปแบบและกลยุทธ์ของการเทรดได้ทุกประเภทและสามารถระบุและคาดการณ์รูปแบบที่มีประสิทธิภาพและมีแนวโน้มที่จะให้ผลกำไรสูงสุด การเริ่มต้นใช้งานบัญชีดังกล่าวจะช่วยให้เหล่าเทรดเดอร์เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและเริ่มก้าวสู่การสร้างเสริมรายได้และกำไรได้ง่าย ๆ
บัญชีมาตรฐาน เป็นบัญชีเหมือนกับบัญชีทดลอง แต่มีเพียงข้อแตกต่างเดียวคือการเทรดดิ้งด้วยเงินจริง หมายความว่าจะได้รับกำไรหรือสูญเสียเงินจริง ๆ การเริ่มต้นใช้งานครั้งแรกอาจจะเริ่มจากเงินขั้นต่ำสุดแล้วค่อยเพิ่มระดับความยากเมื่อเชี่ยวชาญแล้วและสามารถเปลี่ยนสถานะเป็นบัญชีแบบพรีเมียมได้เมื่อผ่านเกณฑ์มาตรฐานแล้วเพื่อให้ก้าวสู่การสร้างกำไรที่มากขึ้น

 

ค่าคอมมิชชั่นและค่าธรรมเนียม Olymp Trade

การเทรดบน Olymp Trade review สำหรับชาวไทยมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่าง ๆ ได้แก่ ค่าคอมมิชชั่น ค่าสเปรด ค่ามาร์จิ้น ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยน ค่าธรรมเนียมการเทรด และอีกมากมาย ดังนี้

ค่าคอมมิชชั่น  ✔️

เป็นค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์ลงทุนเรียกเก็บจากการซื้อขาย มูลค่าที่เรียกเก็บจะขึ้นอยู่กับสินทรัพย์และประเภทของบริการ โดยทาง Olymp Trade คิดค่าคอมมิชชั่น 13.5-20%

  • 13.5% สำหรับบัญชีมาตรฐาน
  • 20% สำหรับบัญชีวีไอพี
ค่าสเปรด ✔️ เป็นค่าความต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย ซึ่งค่าสเปรดมาตรฐานอยู่ที่ระดับ 1.1 pips (สำหรับ EUR/USD) ซึ่งนับว่าต่ำที่สุดในตลาดจึงทำให้มีการแข่งขันสูงที่สุด นอกจากนี้ค่าสเปรดจะแตกต่างไปตามประเภทของบัญชี
มาร์จิ้น ✔️ เป็นจำนวนเงินรวมของการลงทุนซื้อขาย
ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยน ✔️ ขึ้นอยู่กับประเภทของการเทรด จำนวนเงิน ตัวคูณ สถานการณ์ตลาด และข้อกำหนดเฉพาะ
ค่าธรรมเนียมการฝากเงิน ไม่มี
ค่าธรรมเนียมการถอนเงิน ✔️ ราว ~300 บาท (ขึ้นกับอัตราแลกเปลี่ยน)
ค่าธรรมเนียมสว๊อป (Swaps)  ✔️ เป็นค่าธรรมเนียมข้ามคืนหรือคำสั่งการเทรดข้ามคืนหรือในช่วงสุดสัปดาห์อยู่ที่ 15% ของเงินลงทุน
ค่าธรรมเนียมการรักษาบัญชี  แต่อาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิกที่ไม่มีการใช้งานหากภายใน 180 วัน อยู่ที่ ~300 บาทต่อเดือน

ความปลอดภัย

Olymp Trade มีความปลอดภัยเป็นสูงมากทีเดียว เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างสมบูรณ์ โดยได้รับการอนุมัติและอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลโดย FinaCom PLC (Financial Commission) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระทางการเงินในฮ่องกงที่มีสมาชิกโบรกเกอร์หลายสิบแห่งแม้ว่าจะไม่มีการกำกับดูแลตามกฎระเบียบ แต่เมื่อเกิดปัญหาใดก็ตาม นักลงทุนจะได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่ โดยได้รับค่าชดเชยสูงสุด เป็นจำนวนเงินสูงถึง ~740,000 บาท

นอกจากนี้ เมื่อประเมินจากผู้ใช้งานจริงจะเห็นว่า Olymp Trade review ได้รับความคิดเห็นในเชิงบวกอย่างล้นหลาม รวมทั้งยังได้รับรางวัลการันตีในด้านต่าง ๆ อีกจำนวนมาก เช่น โบรกเกอร์ที่เติบโตเร็วที่สุด (2016) โบรกเกอร์ทางการเงินที่ดีที่สุด (2016-2017) โบรกเกอร์แห่งนวัตกรรม (2017) แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ดีที่สุด (2016, 2018) รวมทั้งรางวัลเครือข่ายการซื้อขายในประเทศไทยที่ดีที่สุด (2018) เป็นต้น ดังนั้น นักลงทุนในประเทศไทยทุกคนจึงมั่นใจได้ว่าการใช้บริการบนแพลตฟอร์มแห่งนี้จะได้รับความปลอดภัยทางการเงินอย่างแน่นอน

การสนับสนุนผู้ใช้

Olymp Trade review มีฝ่ายสนับสนุนดูแลลูกค้าในประเทศไทยตลอด 24 ชั่วโมง ที่สามารถดำเนินการช่วยเหลือเป็นภาษาไทยได้อย่างรวดเร็ว ยกเว้นในช่วงสุดสัปดาห์อาจจะมีความล่าช้าเล็กน้อย โดยมีช่องทางติดต่อที่ค่อนข้างสะดวก ได้แก่ อีเมล สายด่วน แชทสด และสามารถส่งคำถามผ่านหน้าติดต่อทีมงานก็ได้ หรือหากต้องการอ่านละเอียดพื้นฐานเพิ่มเติมสามารถตรวจสอบได้ที่คำถามที่พบบ่อยหรือศูนย์ช่วยเหลือลูกค้าเพื่อค้นหาคำตอบได้เช่นกัน

เริ่มเทรด – เริ่มได้ฟรี

คำถามที่พบบ่อย

  • Olymp Trade เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ให้บริการการเทรดฟอเร็กซ์หรือซื้อขายสินทรัพย์ต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากฐานลูกค้าทั่วโลก

  • Olymp Trade เป็นโบรกเกอร์ที่เปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยอยู่ภายใต้การควบคุมของ FinaCom PLC มีการรับประกันค่าชดเชยสูงสุด ~740,000 บาท และยังมีชื่อเสียงที่ดีจากทั่วโลกและได้รับรางวัลการันตีสุดยอดบริการอีกด้วย ดังนั้นจึงปลอดภัยและเชื่อถือได้แน่นอน

  • Olymp Trade มีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการโอนผ่านธนาคาร บัตรธนาคาร (เครดิต/ เดบิต) ผู้ให้บริการออนไลน์ (Skrill/ Neteller) กระเป๋าเงินดิจิทัล (True Money) และอีกมากมาย

  • ได้ เพราะว่า Olymp Trade รองรับการเทรดสกุลเงินคริปโตฯ เต็มรูปแบบ แต่สินทรัพย์ดิจิทัลจะมีความเสี่ยงและความผันผวนที่ค่อนข้างสูง

  • ได้ เนื่องจาก Olymp Trade ออกแบบให้ใช้งานได้จากทุกอุปกรณ์ มีบริการแอปพลิเคชันสำหรับการใช้งานบนมือถือทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS